น้ำมนต์วัดท่าซุงหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ วัดท่าซุง วัดจันทาราม ปลุกเสกแล้ว ควรมีติดบ้าน ดื่มได้ ใช้ในงานพิธีทางศาสนา
น้ำมนต์หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ วัดท่าซุง วัดจันทาราม ของแท้จากวัด ปลุกเสกแล้ว ควรมีติดบ้าน ดื่มได้ ใช้ในงาพิธีทางศาสนา
รุ่นใหม่ ขนาด 600 ml. ฉลากสีน้ำเงิน
รุ่นเดิม ขนาด 500 ml. ฉลากสีแดง
ประสบการณ์น้ำมนต์วัดท่าซุง
ผู้ที่เลื่อมใสศรัทธาในองค์หลวงพ่อพระราชพรหมยาน จะรู้ว่าน้ำมนต์วัดท่าซุงศักดิ์สิทธิ์และอธิษฐานใช้ได้เอนกประสงค์
หลวงพ่อได้เมตตาทำตั้งไว้เป็นสาธารณะที่วิหาร 100 เมตรและศาลารับแขก(ตึกรับแขก ตึกจำหน่ายวัตถุมงคล) ใครใคร่ดื่ม ดื่ม ผู้ใดจะใส่ขวดนำไปบ้านสักเท่าใดก็ไม่มีการหวงห้าม
ที่บ้านดิฉันมีน้ำมนต์นี้ไว้เป็นประจำบ้าน ดิฉันได้เห็นอภินิหารของน้ำมนต์นี้คือเรื่องมีอยู่ว่าดิฉันปลูกมะละกอไว้ต้นหนึ่ง มะละกอต้นนี้เป็นพันธุ์โกโก้เพื่อนบ้านให้ต้นมาปลูก ต่อมามะละกอก็ออกลูกมีเพียง 3 ลูกเท่านั้น
เมื่อมะละกอแก่ดิฉันได้เก็บและแบ่งให้เจ้าของต้นไป 1 ลูก ต้นมะละกอก็ดูโทรมเพราะดินไม่ดีไม่ได้ใส่ปุ๋ย คิดว่าจะฟันทิ้ง พอดีช่วงนั้นอ่านหนังสือหลวงพ่อเล่าถึงหลวงปู่ปานว่า หลวงปู่ปานมีงานวัดครั้งใดคนไปมาก ทางวัดทำอาหารเลี้ยงคนผักเหลือน้อยเพราะสมัยนั้นการคมนาคมยังไม่สะดวก หลวงปู่ท่านทำน้ำมนต์ไปรดผัก ผลปรากฏว่าผักใช้ไม่หมด พอเลี้ยงคนซึ่งไปกันมากดิฉันก็เกิดความคิดจึงนำน้ำมนต์ไปรดที่โคนต้นและพรมที่ลำต้นด้วยและอธิษฐานว่า
หลวงปู่ปานเอาน้ำมนต์รดผักกินไม่หมดฉันใด ก็ขอให้มะละกอต้นนี้งอกงามขึ้นและมีลูกกินไม่หมดเช่นเดียวกัน
ต่อมาผลปรากฏว่ามะละกอมีใบเขียวสดขึ้นและเริ่มมีลูก คราวนี้มีผลดกมากนับได้ 30 กว่า และเริ่มแก่เรื่อยๆ ที่แก่รุ่นแรกได้นำมาถวายหลวงพ่อ 2 ลูกเมื่อวันที่ 13 ก.ค. 34
ขณะนี้มะละกอได้ออกลูกอีกยังไม่หมด ที่มะละกอมีผลดกและกินไม่หมดนี้ก็เพราะบารมีน้ำมนต์ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและบารมีของหลวงพ่อพระราชพรหมยานที่ได้ไปรดเมตตานั่นเอง
ใครว่าน้ำมนต์ไม่ศักดิ์สิทธิ์ก็เป็นเรื่องของเขาเถอะ ★
เกศริน ภู่กร
(จากธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ 126 เดือนสิงหาคม 2534 หน้า 135-136)